|
แผ่นดี....ช่วยชุด จริงหรือ โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ ในการฟังเครื่องเสียงปฏิเสธไม่ได้ว่าแหล่งรายการอันเป็นต้นน้ำสุด ย่อมมีผลต่อคุณภาพเสียงในบั้นปลายอย่างยิ่ง ปัจจุบันในการฟังเครื่องเสียงแหล่งรายการก็คือ คุณภาพของแผ่นและคุณภาพของการบันทึกเสียงมา ไม่ว่าแผ่น CD, แผ่นเสียงไวนีล, แผ่นบลู-เรย์ (เสียง), แผ่นDVD audio และแผ่นSACD ป่วยการที่สรรหา แสวงหาเครื่องเสียงดีเลิศ ไม่ว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นไหน ส่วนไหนของการประกอบเป็นชุดเครื่องเสียง ถ้าสิ่งเหล่านั้นจะต้องถูกใช้ถ่ายทอด แหล่งรายการ ที่มีคุณภาพต่ำเพราะพวกมันก็จะถ่ายทอด,นำเสนอคุณภาพที่ด้อยนั้นออกมาหมดจด ลองฟังรายการวิทยุ ต่อให้เปิดเพลงจากแผ่นCD ที่บันทึกมาเด็ดดวงแค่ไหน แต่พอจบเพลง เสียงผู้จัดรายการดังขึ้น เป็นใครก็ฟังออกว่าเสียงโฆษณาชัดถ้อยชัดคำ เป็นธรรมชาติสมจริง อย่างฟังออกชัด ดูหนังทางทีวีที่มีพากย์ไทยก็จะพบว่า เสียงพากย์ชัดถ้อยชัดคำกว่ามาก ไปฟังเครื่องเสียงในงานโชว์หรือตามโชว์รูม ร้านขาย สิ่งหนึ่งที่ผู้ขายมักนำมาใช้ซึ่งถือเป็นเทคนิคหนึ่งในการขายของให้ได้คือ จะคัดสรรแผ่นCD ที่บันทึกมาอย่างสุดยอดเพื่อช่วยให้ชุดเครื่องเสียงของเขาฟังดีขึ้นไม่ว่าใน่แง่สุ้มเสียงและ มิติเสียง บางครั้งขนาดใช้แผ่นCD ที่บันทึกมาเป็นพิเศษ ทั้งการตกแต่งมาสเตอร์ การบันทึก การทำแผ่น หรืออาจใช้แผ่นSACD ,แผ่นHDCD,แผ่นXRCD 24-bits ฯลฯ ไม่นับพวกที่ใช้แผ่นที่บันทึกมาอย่างเสริมแต่ง(ตรงข้ามกับกรณีแรกที่เน้น “ความเที่ยงตรง”เหมือนต้นกำเนิดที่สุด) เพื่อช่วยแต่งเติมเครื่องเสียงให้ฟังน่าประทับใจ น่าตื่นเต้น ซึ่งปกติเครื่องเสียงนั้นขาดแคลนส่วนแต่งเติมนี้ เมื่อเร็วๆนี้ ผมได้มีโอกาสหยิบยืมแผ่นCD ที่บันทึกมาอย่างเน้นคุณภาพเป็นพิเศษ โดยระบุที่ปกว่า uncompressedคือ ไม่มีการกดการสวิงของเสียงเอาไว้ แผ่นหนึ่งประมาณ(ถ้าจำไม่ผิด) 1,300 บาท 14 เพลง ได้มีโอกาสฟังอยู่ 2 อัลบั้ม(เบอร์ 1 กับ เบอร์ 11 ) เป็นแผ่นของเยอรมนี ครั้งแรกฟังที่ร้านเครื่องเสียงไฮเอนด์ ก็ไม่เลว ฉายแววว่าไม่ธรรมดาจึงขอยืมมาฟังที่บ้าน ซึ่งประกอบด้วยเครื่องเล่นCD ,หลอด T+A D10,สายเสียง madrigal CZ-Gd2(RCA),อินทริเกรตแอมป์ advanced acoustic,สายลำโพง furugawas-2 ไบ-ไวร์ 2 ชุดเข้าลำโพง monitor audio BR-5 ห้องฟังบุฟองน้ำเก็บเสียง sonex(สีขาวจากเยอรมนี) เสียงและมิติที่ออกมาดีกว่าฟังที่โชว์รูมดังกล่าวอย่างคนละเรื่องเลย(อยากบอกว่าคนละโลกเลย) ก็ควรเป็นอย่างนั้นเพราะ ชุดที่บ้านราคาประมาณเกือบ 10 เท่า ของชุดที่ฟังที่โชว์รูมวันนั้น อันนี้ไม่ว่ากัน อีกอย่างคือ ผมมีความรู้สึกมานานมาก(กว่า 20 ปีแล้ว) ว่าศูนย์การค้าที่โชว์รูมนั้นเปิดอยู่ ระบบไฟน่าจะมีปัญหา กว่า 20 ปีที่ผ่านมาไม่เคยฟังชุดไหนไม่ว่าราคาจะถูก จะแพงลิบลิ่วขนาดไหน(สูงสุดเกือบ 20 ล้านบาท) ไม่มีชุดไหนเสียงดีเลย ! ไม่ว่าจากโชว์รูมไหนๆในศูนย์นั้น เป็นอันว่า CD ซุปเปอร์ 2 อัลบั้มนั้น ช่วยให้ชุดที่ผมฟังที่บ้าน “ติดปีก”ขึ้นสวรรค์ได้เลยเสียงเป็นแอนะลอกอย่างยิ่ง อิ่ม แน่น หวานแต่ตื่นตัว น้ำหนักเสียงดีมาก เสียงเกลี้ยงหมดจดอย่างยิ่ง ไม่มีเค้าลางของเสียงดิจิตอลเลย ยังกับฟังจากมาสเตอร์เทปแอนะลอกที่บันทึกความเร็วสูง(คุณภาพเสียงจะดีขึ้น) ช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีเยี่ยม เกลี้ยง สงัด สะอาดหมดจด ชิ้นดนตรีกระเด็นหลุดลอยออกมาเป็นชิ้นๆได้ดี เวทีเสียงกว้างสุดๆลอยหลุดออกมาหาเรา ด้านลึกก็คือ ฟังเพลินเอามากๆแต่ยืนยันได้ว่ายังมีการกดการสวิงเสียงไว้ ไม่ใช่ปล่อยอย่างอิสระที่ระบุว่า uncompressed หากแต่เป็นการควบคุม การสวิงอย่าง “เป็นงาน”เพราะถ้าไม่ควบคุมเลย เกือบจะพูดได้ว่า ต้องใช้แอมป์กำลังขับเป็นพันๆวัตต์(rms) ลำโพงต้อง ขนาดใหญ่ที่รับการสวิงเสียงได้เป็นหลายๆร้อยวัตต์ต่อข้าง(rms) ช่วงค่อยเบาๆอาจใช้วัตต์แค่ 1 วัตต์(ลำโพงความไว 89 ดีบี SPL/W/m) แต่ช่วงดังฉับพลันชั่วเสี้ยววินาที(transient) อาจต้องใช้กำลังขับถึง 1000 วัตต์หรือกว่านั้น ชุดเครื่องเสียงในบ้าน 99.99 เปอร์เซ็นต์ไม่มีทางรับได้ขนาดนั้น ไม่ว่าจะแพงลิบลิ่วขนาดไหน อย่างไรก็ตามแผ่นCD ทั้ง 2 ก็น่าซื้อเก็บไว้เป็น แผ่นอ้างอิงได้ ความน่าตกใจเกิดขึ้น อันทำให้ผมต้องจับปากกามาเล่าเหตุการณ์ตามหัวเรื่องว่า “แผ่นดี...ช่วยชุดจริงหรือ”ให้ฟังคือเมื่อผมเปลี่ยนอินทริเกรตแอมป์จากราคา 33,000 บาทเครื่องนั้นมาเป็นเครื่องอินทริเกรตแอมป์ Mark Levinson NO383 ที่กำลังขับสูงกว่า (200W/RMS/ch ที่ 4 โอห์ม) ราคา 300,000 บาท(ร่วม 10 เท่า) ลำโพงเป็นวางพื้นเหมือนกับอีกยี่ห้อ ราคาน่าจะสูสีกันอย่างอื่นๆเหมือนกันหมด ปรากฏว่า เสียงโดยรวมกลับออกมาแบบพื้นๆ ไม่ได้ โอ้โห เฮะ แบบชุดเดิม แถมฟ้องว่าลำโพงน่าจะ “เอาไม่อยู่” (ไม่ใช่ว่ารับกำลังขับไม่ได้) เพราะผมก็ไม่ได้เปิดดังตูมตามอะไรไปกว่าชุดที่แล้วทั้งๆที่อินทริเกรตแอมป์ NO383 ดีกว่าแอมป์อย่างไม่มีข้อสงสัยอยู่แล้ว ที่น่าคิดก็คือตอนฟังจากแผ่น CD ปกติทั้ง CD เพลงไทย ,CD ระดับหูทองฟัง 2- 3 แผ่น ฯลฯ ลำโพงนั้นก็สอบผ่านสบายๆถือว่าโอเคเลย เป็นใครก็ต้องคาดหวังว่า เมื่อป้อนด้วยแผ่นซุปเปอร์ 2 อัลบั้มดังกล่าวมันน่าจะยิ่งไปโลดเลย อย่างชุดแรกที่เป็น(ฟังดีกว่าแผ่น CD ปกติ 3 เท่า ) แต่การณ์กลับตรงข้ามกับออกมาทะแม่งๆไม่น่าสนใจ ตรงนี้ทำให้เรามองเห็นความจริงอะไรบางอย่าง การจงใจเสาะหาแผ่น CD ระดับซุปเปอร์มาเพื่อเป็นตัวช่วยในการขายชุดหรือโชว์ชุดเครื่องเสียง อาจกลายเป็นตรงข้าม กลับไปฆ่าชุดเครื่องเสียงเสียเองก็ได้ ถ้า
คำถามต่อไปคือ แผ่นซุปเปอร์ ถ้าจัดทุกอย่างถุกต้อง ไม่ทำให้แอมป์หรือลำโพงทำงานเกินขีด มันจะช่วยเครื่องเสียงได้หรือไม่และอย่างไร คำตอบคือ โอเค เมื่อแผ่นดีขึ้น เสียงทั้งหมดและมิติย่อมดีขึ้นกว่าแผ่นปกติ ไม่มากก็น้อย ในกรณีนี้จะพบว่า ยิ่งเป็นแผ่นซุปเปอร์ ยิ่งฟ้องและแสดงความแตกต่างของเครื่องเสียงดีเลิศกับดีปกติ ดีปกติกับแย่ ได้เด่นชัดกว่าแผ่นปกติขึ้นไปอีก อย่างกรณีชุดของผมทั้ง 2 กรณี แผ่น CD ซุปเปอร์นั้น แสดงความแตกต่างของคุณภาพลำโพงได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว นั่นคือ ขณะที่แผ่นซุปเปอร์ช่วยให้ดูเหมือนว่า ชุดดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันมันก็ฟ้องอย่างไม่ลดราวาศอกเช่นกัน ดังนั้น การคิดแต่จะหา CD ซุปเปอร์ไม่ว่ารูปแบบไหน ซุปเปอร์มากน้อยแค่ไหนมาช่วยในการให้ขายเครื่องเสียงได้ จึงต้องระมัดระวัง,รอบคอบ,ต้องรู้งาน,รู้ปัญหา,รู้ความสามารถของชุด( หรือของเครื่องเสียงแต่ละชิ้น ) ต้องฟังเก่ง,ตีบทแตก เมื่อเกิดอาการทะแม่งๆขึ้นมาว่าน่าจะเกิดจากจุดไหนในชุด จากระบบไฟ AC ห้องเสียงหรือไม่ ระบบไฟบ้าน/ร้าน,ศูนย์การค้าหรือไม่ มิเช่นนั้น ไม่เพียงแต่แผ่นซุปเปอร์นั้นจะฟ้องชุดเครื่อง เสียงหากแต่ยังฟ้องความด้อยประสบการณ์ ความรู้ของผู้ขายด้วย
เนื่องจากแผ่นหนังต้องมีระบบเสียงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็ต้องดูว่าชุดเครื่องเสียงเรารับระบบเสียงได้เต็มที่ ขนาดไหน เข้ากรณีที่เราฟังแผ่น CD ที่พูดมาแล้ว ไม่ใช่กระโดดเล่นแผ่นบลู-เรย์ ( BD ) แล้วก็กดเลือกร่องเสียงHD (เช่น DTS-HD master,Dolby Digital Plus,Dolby Digital TrueHD ซึ่งพวกนี้ให้การสวิงสัญญาณกว้างมาก มันอาจให้ “ตัวโน้ต” ที่ชันกว่าปกติ ฟังแล้วน่าตื่นเต้น ตูมตามถึงลูกถึงคนดี แต่จริงๆก็สร้างปัญหาให้แก่ภาค ขยายและลำโพง ดังกรณีที่กล่าวแล้วกับแผ่นCD ซุปเปอร์ ดูหนังต่างจากฟังเพลง ดูหนังจะตูมตาม แช่อยู่มีก็แค่ ชั่วแว๊บเดียว ตลกมากที่ค่ายระบบเสียงเหล่านี้พยายามผลักดันระบบเสียง HD sound เหล่านี้เพื่อกินลิขสิทธิ์หัวคิว ลิขสิทธิ์ระบบ (พวกผลิตเครื่อง AV ขายก็จะได้หลอกขายรุ่นใหม่ๆได้อีก ) แล้วตอนนี้เป็นไง พวกต้นคิด HD sound ก็นำเสนอวงจรควบคุมการสวิงเสียง (compressed ) อ้างว่าเพื่อเวลาเลือกแต่ละแหล่งรายการจะได้ดังพอๆกันเช่น จากดูทีวี,ดูเคเบิ้ล,ดูDVD,ดูBD ) สุดท้ายก็หวังขายลิขสิทธิ์ระบบนี้อีก (จริงๆก็คงมีคนบ่นโวยวายปัญหา HD sound ก้เลยนำเสนอระบบกดเสียงพิสดารนี้นั่นเอง แต่อ้างว่าเพื่อบาลานช์เสียงจากแต่ละแหล่งรายการ) พูดถึงแผ่นภาพ ด้านภาพก็ไม่เข้าใจว่าทำไมในเมื่อแผ่น BD เองก็มีความจุกว่า 50GB ( 2 ผิว ) ทำไมไม่ บันทึกภาพแบบเต็มที่ ไม่ย่นย่อข้อมูลกันเลย ไม่ต้องพูดถึง AVCHD,MPEG,VD อะไรทั้งนั้น ถ้าหนังมันยาวก็ทำมา 2 แผ่น BD เลย บางเจ้ากลับบังคับขายแผ่น BD พร้อม DVD พร้อมแผ่นย่อสัญญาณสุดๆไว้ใส่เครื่องพกพา (Digital Copy ) ทำไมไม่ให้ BD 2 แผ่นบันทึกสุดๆ 60Hz กันเลย ( จริงๆมีแผ่น BD ที่บันทึกได้กว่า 100 GB พร้อมผลิตขายแล้ว ) ผมเชื่อว่า ภาพ,มิติ จะดีขึ้นอีกมาก หรือคิดแต่หลอกขายระบบ 3D เท่านั้น www.maitreeav.com |